รุ่นไหนดี 6 อันดับ ไม้เซลฟี่ รุ่นไหนดี ที่นิยม คลิกเลย อัพเดทล่าสุดปี 2567

อัพเดท รายละเอียดแบรนด์ โปรโมชั่น ส่วนลด ในร้านค้าออนไลน์ ได้ก่อนใคร กับร้านค้าแนะนำของเราเท่านั้น หากไม่อยากพลาดโปรดีๆ รีบเลย ช้อปก่อนใคร คอลเลคชั่นใหม่ทุกแบรนด์ พร้อมโปรสุดปัง ให้คุณช้อปสุดฟิน
คุณภาพเจ๋ง ราคาที่ไม่แพง เราแนะนำเลยเจ้านี้ ไม้เซลฟี่  สินค้ากับร้านที่เราแนะนำ  ราคาพิเศษส่งให้คุณลูกค้าถึงหน้าบ้าน สั่ง ไม้เซลฟี่  ไป ราคาถุกจริงๆ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ลดราคาลงมาอีก เลยจัดไป ได้รับสินค้าเรียบร้อย ส่งทางไปรษณีย์หรือไม่ก็ทางหน่วยจัดส่ง คุณภาพเยี่ยม ได้รับสินค้าแล้วดีใจมาก ตรงตามต้องการในรุป ไม่พบปัยหาเลยกับทางร้านค้า

     
คุณรู้หรือไม่? การเลือกซื้อไม้เซลฟี่แต่ละชนิดนั้นมีทั้ง ไม้เซลฟี่ นอกจากจะพิจารณาเรื่องของการใช้งานไม่ว่าจะเป็น งบประมาณ คุณภาพ ความทนทาน ชื่อเสียงของแต่ละรุ่นแล้ว ยังควรพิจารณาในเรื่องของพื้นที่ในการจัดวางและพื้นที่ใช้สอยในไม้เซลฟี่อีกด้วย โดยวันนี้เราได้จัดอันดับ ไม้เซลฟี่แบบที่มีคุณภาพดีมีประสิทธิภาพมาให้คุณได้เลือกกันแล้ว ดังนี้

ตั้งแต่ที่ “Smartphone” รวมไปถึงเทคโนโลยีการถ่ายภาพต่าง ๆ ถูกพัฒนาขึ้น เดี๋ยวนี้เวลาคนเราจะไปไหนก็จะต้องพกมือถือหรือกล้องถ่ายรูปเพื่อถ่ายภาพเก็บความทรงจำต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยไปจนถึงโมเมนต์สำคัญในชีวิต โดยเฉพาะการเลี้ยงสังสรรค์เป็นกลุ่ม ซึ่งบางครั้งก็มีอุปสรรคในการถ่ายรูปรวม เพราะเก็บคนได้ไม่หมด “ไม้เซลฟี่” จึงกลายเป็นตัวช่วยสำหรับคนชอบถ่ายรูปนั่นเองค่ะ

ดูเผิน ๆ เจ้าไอเทมนี้ดูไม่น่าจะมีอะไรยุ่งยาก คงมีไม่กี่แบบ แต่จริง ๆ แล้วมีหลากหลายลักษณะให้เลือกซื้อกันตามการใช้งานเลยนะคะ ดังนั้นการอ่าน “วิธีการเลือก” และ “7 อันดับสินค้ายอดฮิตขายดี” ที่ผ่านการเปรียบเทียบทั้งจากคุณสมบัติ, รีวิว และราคา จึงเป็นสิ่งสำคัญ เกริ่นมาแค่นี้ก็น่าสนใจแล้วใช่ไหมเอ่ย ถ้าอย่างนั้นอย่ารอช้า ไปอ่านกันเลยดีกว่าค่ะ
ไม่น่าเชื่อเลยใช่ไหมคะว่าเจ้าไอเทมที่ดูธรรมดา ๆ นี้จะมีหลายแบบให้เลือกซื้อ ซึ่งแต่ละแบบมีคุณสมบัติอะไรบ้างและเหมาะกับการใช้งานแบบไหน วันนี้ผู้เขียนได้สรุปคร่าว ๆ ให้เพื่อน ๆ ทำความเข้าใจกันได้ง่าย ๆ ไว้ที่ด้านล่างนี้เรียบร้อยแล้วค่ะ
ถ้าใช้วิธีการกดชัตเตอร์จำแนกประเภทไม้เซลฟี่จะสามารถแบ่งได้ 2 กลุ่มใหญ่ ๆ ด้วยกันค่ะ แบบแรกคือ “กดชัตเตอร์ไม่ได้” และแบบที่สอง คือ “กดชัตเตอร์ได้” ซึ่งรายละเอียดของแต่ละแบบเป็นอย่างไร มาอ่านกันเลยค่ะ
ไม้เซลฟี่แบบธรรมดา ทำหน้าที่แค่ล็อก Smartphone ไว้ที่ปลายด้านหนึ่งโดยไม่มีปุ่มชัตเตอร์ที่ตัวไม้ การถ่ายรูปจึงต้องพึ่งฟังก์ชั่นจับเวลาถ่ายภาพของตัวมือถือเอง ราคาก็จะย่อมเยากว่าแบบมีปุ่มชัตเตอร์มาให้ เหมาะกับการใช้ชั่วคราวหรือมือใหม่หัดซื้อ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าราคาจะถูกแค่ไหนแต่บางสถาณการณ์โดยเฉพาะเวลาเร่งรีบ ข้อดีนี้ก็ไม่ดีพอที่จะทำให้หลายคนซื้อค่ะ หลายแบรนด์จึงพัฒนา “รีโมทคอนโทรล” ขึ้นมา เพื่อช่วยกดชัตเตอร์โดยที่ไม่ต้องพึ่งแต่ฟังก์ชั่นการจับเวลาอย่างเดียว ทำให้ใช้งานง่ายขึ้นและยังช่วยประหยัดเวลาอีกด้วยค่ะ ถือเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจเลยทีเดียว
หลายคนอาจจะสงสัยว่า เอ๊ะ ไม้เซลฟี่จะสั่งการสมาร์ทโฟนยังไง ไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ เพราะไม้เซลฟี่จะเชื่อมต่อกับมือถือผ่าน Earphone jack ซึ่งคล้ายกับการเสียบหูฟังนั่นเอง พอเราอยากถ่ายรูปก็แค่กดชัตเตอร์ที่ไม้เซลฟี่ แค่นี้ก็ถ่ายภาพได้แล้วค่ะ จึงเหมาะกับสายเซลฟี่หรือคนที่ต้องการความสะดวกสบายมากเป็นพิเศษ แต่มีข้อจำกัดอยู่ที่ตอนถ่ายรูปจะไม่สามารถเสียบหูฟังหรือเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่น ๆ ผ่านทางช่องเสียบหูฟังไปด้วยได้นะคะ
คล้ายกับประเภทก่อนหน้าเลยค่ะ ต่างกันตรงวิธีการเชื่อมต่อ ประเภทนี้จะใช้เทคโนโลยี Bluetooth เข้ามาแทน ทำให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะกำลังเสียบหูฟังหรือเชื่อมต่อกับอุปกรณ์มีสายอื่น ๆ อยู่ก็ตาม แต่การเชื่อมต่อครั้งแรกจะใช้เวลาเล็กน้อยนะคะ เพราะต้องให้อุปกรณ์ทำความรู้จักกันเสียก่อน แต่เมื่อใช้ครั้งต่อไปจะสามารถเชื่อมต่อกันได้ทันที
อย่างไรก็ตาม ประเภทนี้ต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ซึ่งคล้ายกับสมาร์ทโฟนของเราที่ต้องชาร์จแบตฯให้มีไฟเพียงพอสำหรับการใช้งาน ดังนั้นก่อนหยิบไปใช้จึงต้องมั่นใจว่าไม้เซลฟี่มีไฟมากพอ นอกจากนี้ระยะเวลาการใช้งานยังจำกัด ขึ้นอยู่กับกำลังไฟที่แบตเตอรี่เก็บไว้ด้วยค่ะ
OS ย่อมาจาก Operator System หรือที่ภาษาไทยเรียกว่า “ระบบปฏิบัติการ” ซึ่งถ้าใช้ OS เป็นเกณฑ์จำแนกประเภทของสมาร์ทโฟนจะสามารถแบ่งได้ 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ “Andriod” และ “iOS” เวลาเลือกซื้อไม้เซลฟี่จึงควรเช็คก่อนว่ารุ่นนั้น ๆ รองรับ OS อะไรบ้าง ใช่ที่เราใช้อยู่ไหม ไม่อย่างนั้นจะเชื่อมต่อไม่ได้นะคะ
เกร็ดน่ารู้ : วิธีเช็ค OS ของสมาร์ทโฟนที่ง่ายที่สุด คือ ดูจากยี่ห้อมือถือของเราค่ะ ถ้าใช้ Samsung ก็จะเป็น Andriod แต่ถ้า Apple ก็จะเป็น iOS ส่วนยี่ห้ออื่น ๆ ให้อ่านจากรายละเอียดในเครื่องหรือศึกษาจากคู่มือประกอบแทน
อันดับแรกต้องเช็คขนาดของสมาร์ทโฟนของเราก่อนค่ะ จากนั้นถึงไปเช็คตัวยึดของไม้เซลฟี่ อย่างไรก็ตามสำหรับใครที่ใส่เคสมือถือ อย่าลืมคำนึงถึงขนาด, ความหนาและวัสดุของเคสด้วย ถ้าหนาเกินไปอาจจะร่วงหล่นง่าย ในขณะที่รุ่นที่ทำจากซิลิโคนหรือดีไซน์แบบฝาพับเปิดปิดคล้ายโน้ตบุ๊กก็อาจจะนุ่มยวบจนตัวยึดเกาะไม่อยู่ แนะนำให้บวกมิลลิเมตรเพิ่มจากขนาดของมือถือไปอีกเล็กน้อยจะปลอดภัยกว่า
บางคนอาจจะสงสัยว่าต้องเช็คที่จับกันด้วยหรอ แต่ลักษณะของด้ามจับที่ต่างกัน เมื่อถือแล้วจะส่งผลต่อความมั่นคงของไม้ ดังนั้นภาพจะสั่นหรือไม่ขึ้นอยู่กับตรงนี้เลยค่ะ ซึ่งโดยปกติแล้วที่จับจะทำมาจากหลายวัสดุ เช่น ฟองน้ำ ยาง พลาสติก หากเป็นไปได้ให้ลองเทสของจริงที่หน้าร้านก่อนนะคะ แต่ถ้าทำไม่ได้ให้อ่านจากรีวิวแทน
นอกจากนี้อย่าลืมเช็คความยาวด้วยนะคะ โดยไม่ควรเลือกรุ่นที่ยาวจนเกินไป เพราะยิ่งข้อต่อมากขึ้นเท่าไร ความคงทนก็จะยิ่งลดน้อยลง ควรเลือกอยู่ที่ประมาณ 70 ซม.ก็เพียงพอแล้วค่ะ
ก่อนการซื้อเพื่อน ๆ ควรเช็คด้วยว่าแพ็กเกจและน้ำหนักของรุ่นนั้น ๆ สะดวกต่อการพกพาไหม เพราะถ้าหนักเกินไป เวลาถือไม้ถ่ายรูปก็จะเมื่อย ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วน้ำหนักที่พอเหมาะ คือ 150 กรัม และสำหรับใครที่เน้นความสะดวกสบาย เป็นสายท่องเที่ยว แนะนำให้เลือกรุ่นที่มีสายคล้องแขนด้วยนะคะ จะได้เกี่ยวกับกระเป๋า, หูเข็มขัดหรือกระเป๋าใส่มือถือได้
แม้ว่าปัจจุบันกล้องของสมาร์ทโฟนจะถูกพัฒนาให้ดีเลิศแค่ไหน แต่ก็ยังสู้กล้องถ่ายภาพไม่ได้อยู่ดีค่ะ เพราะบางครั้งมือถืออาจจะสั่นหรือฟังก์ชั่นการซูมภาพไม่เสถียรพอ ดังนั้นถ้าใครต้องการคุณภาพของรูปสูง แนะนำให้ใช้กล้องดิจิทัลแทนจะดีกว่า
มาถึงตอนนี้หลายคนอาจจะกำลังอยากเลือกซื้อไม้เซลฟี่แบบขาเดียวมาใช้กับกล้องที่บ้าน แต่จริง ๆ แล้วไม่ควรทำนะคะ หรือถ้าจะทำก็ต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งเพราะผลิตภัณฑ์นี้ส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ใช้กับกล้อง ขนาดของแท่นวางจึงไม่พอดีกับตัวกล้อง ทำให้อาจเขยื้อนจนตกลงมาได้ แนะนำให้เลือกรุ่นพิเศษสำหรับกล้องดิจิทัลโดยเฉพาะหรือเปลี่ยนไปซื้อขาตั้งกล้องที่มี 3 ขาดีกว่าค่ะ เพราะล็อกกล้องได้มั่นคงกว่า แถมยังมีขอบเขตการถ่ายที่กว้างกว่าด้วย
อุปกรณ์นี้เป็นได้ทั้งไม้เซลฟี่และขาตั้งมือถือ ทำมาจากอลูมิเนียมคุณภาพดี มีน้ำหนักเบาและไม่เป็นสนิม สามารถปรับหมุนหัวหนีบตัวมือถือได้ถึง 360 องศา นอกจากนั้นยังสามารถเชื่อมต่อรีโมทด้วยระบบบูลทูธที่รองรับได้ทั้งระบบ Android และ IOS สามารถใช้เป็นขาตั้งกล้องถ่ายในระยะไกลได้แบบสบาย ๆ

เมื่อพับเก็บแล้วมีขนาดเพียงแค่ 19 เซนติเมตรเท่านั้น ใส่กระเป๋าได้สบาย ๆ ไม่กินที่สัมภาระอื่น ๆ เหมาะสำหรับการพกพาไปท่องเที่ยวคนเดียวแบบไม่ต้องง้อเพื่อน ง้อแฟนให้ช่วยถ่ายรูปให้เลย สายเซลฟี่ สายรีวิวก็เหมาะเช่นกัน
มาถึงหัวข้อที่ทุกคนรอคอย! ตอนนี้เพื่อน ๆ คงเริ่มมองภาพกันออกแล้วใช่ไหมคะว่ารุ่นที่เหมาะกับตัวเองควรมีลักษณะอย่างไร ดังนั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปดูข้อมูลของสินค้าที่น่าสนใจกันเลยดีกว่าค่ะ
ไม้เซลฟี่แบบมีปุ่มชัตเตอร์ในตัว เชื่อมต่อผ่านสายเสียบ Earphone พิเศษด้วยตัวยึดที่สามารถพับประกบกับด้ามจับได้พอดี จึงมีขนาดกะทัดรัด ช่วยให้พกพาสะดวก มาพร้อมคุณสมบัติสามารถปรับความยาวได้ถึง 4 ระดับ ทำให้คุณได้ระยะภาพที่หลากหลายและยังมีหลายสีให้เลือกซื้อ ซึ่งคนที่ใช้จริงต่างบอกว่าวัสดุแข็งแรงทนทาน ใช้งานง่าย การเชื่อมต่อเสถียร แต่สายคล้องข้อมือไม่ค่อยทนเท่าไร
ใครรู้สึกว่ารุ่นที่แล้วราคาสูงเกินไป ขอลดงบประมาณลงมาหน่อย แนะนำให้ลองดูรุ่นนี้เลยค่ะ อุปกรณ์เชื่อมต่อผ่านช่องเสียบหูฟัง พร้อมโดดเด่นด้วยคุณสมบัติมากมาย เช่น ปรับระยะความยาวได้ 6 ระดับ, มีน้ำหนักเบาเพียง 132 กรัม, สามารถพับเก็บได้ในขนาดกะทัดรัดและหมุนได้ 270 องศา ทำให้การถ่ายรูปของคุณสนุกมากยิ่งขึ้น หลายคนที่ซื้อไปจึงหลงรัก การันตีว่าใช้งานง่ายและพกพาสะดวก ถือเป็นอีกรุ่นที่ Must have เลยค่ะ แต่ต้องระวังเรื่องขนาดที่ยึด เพราะบางคนยังบ่นว่าไม่ค่อยพอดี
รุ่นนี้น่าสนใจมากทีเดียวค่ะ พิเศษด้วยด้ามจับที่สามารถปรับเป็นขาตั้งกล้อง 3 ขาได้ ทำให้ขอบเขตการถ่ายภาพกว้างขึ้น พร้อมฟังก์ชั่นควบคุมระยะไกลกว่า 10 เมตร และตัวยึดที่หมุนได้ 360 องศา โดยเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth กดชัตเตอร์ได้ผ่านรีโมทคอนโทรลที่ติดและแกะออกจากด้ามได้อิสระ หลายคนที่ซื้อไปต่างบอกว่าวัสดุแข็งแรงคงทน ที่ยึดแน่นเกาะติดสมาร์ทโฟนได้ดี และสามารถพับเก็บเพื่อพกพาได้เป็นอย่างดี โดยรวมแล้วถือว่าคุ้มค่าทีเดียวค่ะ
ใครที่รู้สึกว่าความยาวของไม้เซลฟี่รุ่นทั่ว ๆ ไปมันน้อยไป อยากได้มากกว่านั้น แนะนำรุ่นนี้เลยค่ะ เพราะเขามีจุดเด่นอยู่ที่ความยาวที่มากเป็นพิเศษ สามารถปรับระยะยืดหดได้ถึง 3 ระดับ มาพร้อมตัวยึดที่ปรับเอียงได้ และมีสายคล้องแขนช่วยให้พกพาสะดวก โดยเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนด้วย Bluetooth ที่มาในรูปแบบรีโมทคอนโทรล ช่วยให้คุณใช้งานง่ายขึ้น

หลายคนที่ได้ลองใช้จริงต่างบอกว่าวัสดุแข็งแรง น้ำหนักกำลังดี แต่ตัวยึดอาจจะฝืดเล็กน้อย อย่างไรก็ตามรุ่นนี้ซูมเข้าออกได้นะคะ แต่ต้องตั้งค่าเสียก่อน (คู่มือเป็นภาษาอังกฤษและจีน)
อีกหนึ่งรุ่นที่มีคุณสมบัติน่าสนใจไม่น้อยเลย สามารถพับเก็บให้เหลือขนาดเพียง 22 ซม.ได้ จึงง่ายต่อการพกพา และแข็งแรงทนทานด้วยบอดี้ทำจากอะลูมิเนียม นอกจากนี้ยังมีหลายสีให้เลือกซื้อ โดยเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนง่าย ๆ ด้วยรีโมท Bluetooth ส่วนรีวิวของรุ่นนี้ หลายคนบอกว่าเนื้องานดี น้ำหนักเบา ใช้งานได้ตรงตามคำเคลม แถมยังมีซองผ้าสำหรับเก็บรักษาให้ด้วย ใครที่มองหาไม้เซลฟี่ราคาน่ารัก รุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีเลยค่ะ
ไม้เซลฟี่แบบ 3 ขา เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนหรือกล้องถ่ายรูปขนาดเล็กผ่านรีโมทคอนโทรล Bluetooth สามารถปรับระยะยืดหดได้ 4 ระดับ และยังพับเก็บได้ ช่วยให้พกพาสะดวก โดยผลิตมาจากอะลูมิเนียมและพลาสติก PVC สามารถรับน้ำหนักอุปกรณ์ได้ถึง 300 กรัม ซึ่งคนที่ใช้จริงต่างรีวิวไว้ว่าขนาดกะทัดรัด ใช้งานได้ดีและสมดุลของไม้มั่นคง มีข้อเสียเพียงเล็กน้อยเท่านั้นคือด้ามจับสั้นไปหน่อยค่ะ
มาถึงอันดับที่ทุกคนรอคอย เป็นอย่างไรคะแค่เห็นแพ็กเกจก็น่าซื้อแล้ว แต่ไม่ได้มีดีแค่นี้นะคะ รุ่นนี้เขาเน้นขนาดกะทัดรัดเป็นพิเศษ สามารถพับเก็บให้เหลือความยาวแค่ 14 ซม.เอง พร้อมแข็งแรงคงทนด้วยบอดี้ทำมาจากอะลูมิเนียม โดยเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนง่าย ๆ ด้วยสายเสียบช่องหูฟังจึงกดชัตเตอร์ที่ตัวไม้ได้ทันที ทำให้คนที่ซื้อใช้จริงต่างปลาบปลื้ม บอกว่าเนื้องานเรียบร้อย ดูปลอดภัยกับมือถือ แถมยังมีน้ำหนักเบาและใช้งานได้ดี จึงไม่น่าแปลกใจที่ใคร ๆ จะเลือกใช้ค่ะ
ดูเหมือนเป็นไอเทมที่ใช้ง่าย แต่ด้วยความที่มีหลายประเภท ทำให้แต่ละรุ่นมีวิธีการใช้งานต่างกัน ซึ่งเพื่อน ๆ ควรศึกษาไว้ก่อน เวลาใช้จริงจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเรียนรู้นะจ๊ะ โดยผู้เขียนขออนุญาตอธิบายออกเป็นข้อ ๆ ตามประเภทของผลิตภัณฑ์เพื่อให้อ่านง่ายมากขึ้น

  1. ไม่มีปุ่มกดชัตเตอร์ : ขั้นแรกเพื่อน ๆ จะต้องตั้งโหมดถ่ายรูปแบบจับเวลาในสมาร์ทโฟนเสียก่อน จากนั้นให้ติดตั้งสมาร์ทโฟนบนไม้เซลฟี่ เท่านี้ก็จะได้รูปสวย ๆ แล้วค่ะ

  2. มีปุ่มกดชัตเตอร์

    1. แบบมีสาย : อันดับแรกเสียบสายไม้เซลฟี่กับช่องเสียบหูฟังของสมาร์ทโฟน เมื่อเชื่อมต่อกันเรียบร้อยแล้วให้เข้าแอปพลิเคชั่นถ่ายภาพ จากนั้นกดชัตเตอร์จากตัวไม้ได้เลยค่ะ

    2. ไร้สาย (Bluetooth) : เปิด Bluetooth ในสมาร์ทโฟนและจับคู่กับไม้เซลฟี่ ซึ่งครั้งแรกอาจต้องใช้เวลาประมาณ 3-4 นาทีหรือมากกว่านั้นกว่าที่อุปกรณ์ทั้งสองจะเชื่อมต่อกันได้ แต่ครั้งต่อ ๆ ไปจะทำได้ทันทีค่ะ จากนั้นเข้าแอปพลิเคชั่นถ่ายรูปและกดชัตเตอร์จากไม้ได้เลย

ข้อควรระวัง : กรณีของแบบไร้สาย อุปกรณ์จำเป็นต้องได้รับพลังงานจากแบตเตอรี่หรือถ่านเสียก่อน ก่อนหยิบไปใช้เพื่อน ๆ จึงควรชาร์จแบตฯหรือใส่ถ่านให้เต็มเสียก่อนนะคะ และต้องระวังระยะเวลาการใช้งานด้วย เพราะแบตเตอรี่และถ่านสามารถหมดได้ (ลักษณะคล้ายกับการชาร์จแบตฯสมาร์ทโฟน)
ตามที่เราได้อธิบายไปในตอนต้นว่าไม้เซลฟี่สามารถยืดยาวได้ถึง 70 ซม. ซึ่งดูเผิน ๆ แล้วดูไม่ยาวอะไรมาก แต่ถ้าคุณไปถ่ายในสถานที่มีพื้นที่จำกัดหรือมีคนเยอะ ๆ อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตทั้งกับคนและสิ่งของได้ค่ะ ทำให้บางสถานที่ถึงขั้นออกกฎห้ามใช้ไม้เซลฟี่ถ่ายรูป ก่อนจะใช้เพื่อน ๆ จึงควรอ่านกฎให้ดีเสียก่อน เพราะถ้าสร้างความเสียหายขึ้นมา โดนปรับยิ่งกว่าค่าไม้อีกนะคะทุกคน
สำหรับใครที่กังวลเรื่องกฏเกณฑ์ของสถานที่เที่ยวเป็นพิเศษ แนะนำให้ซื้อเลนส์มุมกว้างสำหรับมือถือมาใช้แทนนะคะ ผลลัพธ์ได้เหมือนใช้ไม้เซลฟี่ถ่ายเป๊ะ ๆ แต่มีขนาดกระทัดรัดมากกว่า ทำให้เหมาะกับการใช้ในสถานที่ที่คนเยอะ ๆ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ 7 อันดับสินค้าที่เรานำเสนอกันวันนี้ ไม่น่าเชื่อเลยว่าแค่ไม้เซลฟี่จะมีหลายแบบและหลายรุ่นอย่างนี้ แต่ความธรรมดา ๆ นี่เองแหละค่ะที่ช่วยสร้างความแตกต่างเวลาถ่ายรูป เมื่อย้อนกลับมาดูแล้วคุณจะได้นึกถึงความทรงจำที่ดีในรูปนั้น ซึ่งวิธีการเลือกก็ไม่ยากเลย แค่ดูจากความถนัดของเรา ขนาดตัวยึด ความยาวของไม้และระบบปฏิบัติการของสมาร์ทโฟนเป็นหลัก เท่านี้ก็ได้รุ่นที่ใช่แล้วค่ะ
ก่อนจะจากกัน ผู้เขียนแนะนำกันอีกเล็ก ๆ น้อย ๆ ว่า สีสันของไม้เซลฟี่ส่วนใหญ่แล้วจะมี 2 ลักษณะนะคะ คือสีพื้น ๆ เหมาะกับการพกไปถ่ายรูปท่องเที่ยว ส่วนอีกแบบคือสีสันสดใส เหมาะกับการเซลฟี่แฟชั่น พกไปถ่ายรูปเก๋ ๆ ตามร้านอาหารแบบนี้